เมื่อพูดถึงหนังสือประวัติศาสตร์ หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าเบื่อคล้าย ๆ กับวิชาสังคมในสมัยเรียนหนังสือ แต่ความจริงแล้วหนังสือประวัติศาสตร์ในปัจจุบันมีการพัฒนาทั้งหัวข้อและรูปแบบการเขียนให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ทำให้หนังสือประวัติศาสตร์กลายเป็นหนังสือที่อ่านแล้วสนุก น่าติดตาม ใคร ๆ ก็อ่านได้ ไม่วิชาการจ๋าจนเกินไป ยิ่งถ้าหากเป็นคนที่สนใจในด้านนี้เป็นพิเศษแล้วล่ะก็ จะยิ่งหลงรักเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม หนังสือประวัติศาสตร์ก็มีหลายเรื่อง หลายเล่มจากหลายประเทศ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเล่มนั้นใช่สำหรับเราจริงหรือไม่ใช่ !?
ดังนั้น ในครั้งนี้ เราจะมาแนะนำถึงวิธีการเลือกหนังสือประวัติศาสตร์และจัด 10 อันดับ หนังสือประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ประจำปี 2020 ที่สามารถซื้อออนไลน์ได้ มาให้ทุก ๆ คนได้เลือกอ่านกันครับ ถ้าพร้อมแล้ว เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า !
แม้จะถูกเรียกว่าเป็นหนังสือประวัติศาสตร์เหมือน ๆ กัน แต่ก็สามารถแบ่งหมวดหมู่ย่อย ๆ ได้อีกมากมาย ดังนั้น เรามาดูวิธีการเลือกหนังสือประวัติศาสตร์กันก่อนดีกว่าครับ
สิ่งสำคัญสำหรับการเลือกหนังสือที่จะอ่านก็คือ การอ่านเรื่องที่ตัวเองสนใจ เพราะความชอบจะช่วยกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของเราได้มากเลยทีเดียว ดังนั้น เรามาเลือกหัวข้อทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจและเลือกหนังสือที่เหมาะกับตัวเองกันต่อเลยครับ
สำหรับเรื่องประวัติศาสตร์ไทย หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าตัวเองมีข้อมูลความรู้มากมายอยู่แล้วจากการเรียนในโรงเรียนหรือตำราเรียน แต่อันที่จริงแล้วประวัติศาสตร์ไทยยังมีสิ่งต่าง ๆ ให้ค้นหาอีกมากมาย ทั้งเรื่องราวที่ไม่เคยถูกพูดถึงในตำราเรียน หรือประวัติศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากการค้นพบหลักฐานหรือข้อมูลใหม่ ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ ถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจเป็นไม่น้อยเลยทีเดียว
ที่สำคัญ หนังสือประวัติศาสตร์ไทยยังถือเป็นหนังสือประวัติศาสตร์ที่อ่านง่าย เพราะชื่อบุคคลและสถานที่ต่าง ๆ เป็นล้วนแล้วแต่เป็นชื่อที่เราคุ้นเคย และหลาย ๆ คนก็มีพื้นฐานทางประวัติศาสตร์ไทยกันดีอยู่แล้ว ดังนั้น ใครที่ชื่นชอบเรื่องราวแบบไทยสมัยโบราณหรืออยากเห็นมุมมองใหม่ ๆ ที่เราไม่รู้จักมาก่อน หนังสือประวัติศาสตร์ไทยก็เป็นหนังสืออีกเล่มที่เราอยากให้ทุกคนได้ลองอ่านดูครับ
ถ้าคุณสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับอารยธรรมและวัฒนธรรมต่าง ๆ จากรอบโลก เราขอแนะนำหนังสือประวัติศาสตร์โลกให้ลองอ่านกันดูครับ เพราะประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากมายล้วนเกิดจากการร้อยเรียงและเชื่อมต่อกันระหว่างอารยธรรม การเรียนรู้ประวัติศาสตร์โลกก็จะทำให้เรารับรู้ถึงภาพรวมของประวัติศาสตร์และที่มาของวัฒนธรรมจากแต่ละประเทศได้ดียิ่งขึ้นครับ
ในปัจจุบัน นอกจากหนังสือประวัติศาสตร์ตะวันตกที่เป็นกระแสหลักแล้ว หนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์จีน, แอฟริกา, อินเดีย หรือประเทศอื่น ๆ ในแถบเอเชียก็มีวางจำหน่ายเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมไม่เหมือนในอดีต ใครที่สนใจเกี่ยวกับประเทศต่าง ๆ เหล่านี้ ห้ามพลาดเด็ดขาดนะครับ
หนังสือประวัติบุคคลสำคัญหรือหนังสืออัตชีวประวัติ ถือเป็นหนังสือที่ได้รับนิยมและมีคนสนใจอ่านมาโดยตลอด เพราะนอกจากเนื้อหาทางประวัติศาสตร์ที่สอดแทรกมาในชีวประวัติของแต่ละคนแล้ว เรายังสามารถได้รับแนวคิด วิถีทางการดำเนินชีวิต รวมไปถึงคติสอนใจของบุคคลสำคัญต่าง ๆ เหล่านั้นผ่านทางการอ่านเรื่องราวของพวกเค้าอีกด้วย
นอกจากหนังสือประวัติบุคคลสำคัญต่าง ๆ ที่เป็นเรื่องราวของคนไทยแล้ว ยังมีหนังสือประวัติบุคคลสำคัญของต่างประเทศหลายคนที่น่าสนใจและมีแง่มุมให้ขบคิดที่น่าอ่าน เช่น ประวัติของเหมา เจ๋อตง หรืออดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เป็นต้น หนังสือประวัติบุคคลสำคัญจึงถือเป็นอีกแนวที่มีความน่าสนใจและทำให้เราอยากแนะนำสำหรับทุกคนครับ
สงครามแต่ละครั้งถือเป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์โลกและก่อให้เกิดผลกระทบต่าง ๆ มากมาย การศึกษาและรับทราบเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ในสงครามที่สำคัญ จะช่วยให้เราได้เรียนรู้และเข้าใจบริบทของสังคมโลกมากยิ่งขึ้น เนื่องจากในสงครามมีเรื่องราวที่ควรค่าแก่การศึกษามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการรบที่ดุเดือด, ความสูญเสียที่น่าโศกเศร้า, นวัตกรรมและไอเดียใหม่ ๆ ที่ถูกคิดค้นขึ้นในช่วงเวลาสงคราม เป็นต้น ด้วยรสชาติและเนื้อหาที่หลากหลายเหล่านี้ ทำให้หนังสือประวัติศาสตร์สงครามไม่น่าเบื่อและยังถือเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวที่หลาย ๆ คนชื่นชอบ
ที่สำคัญ ในปัจจุบันนี้ยังมีภาพยนตร์เกี่ยวกับสงครามอิงประวัติศาสตร์ออกมามากมาย อาทิ เหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 1 หรือสมรภูมิมิดเวย์ สำหรับคนที่ชอบภาพยนตร์สงครามเหล่านี้ เราก็ขอแนะนำให้ลองอ่านหนังสือประวัติศาสตร์สงครามที่เกี่ยวกับเหตุการณ์เหล่านั้นดูด้วยนะครับ ไม่แน่ว่า คุณอาจจะได้รับทราบมุมมองใหม่ ๆ ที่ในภาพยนตร์ไม่ได้นำเสนอให้ดูก็เป็นได้ครับ
หากคุณเบื่อหนังสือประวัติศาสตร์กระแสหลักที่เล่าแต่เรื่องของผู้นำ, กษัตริย์, สงครามและเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ลองเปลี่ยนไปอ่านหนังสือประวัติศาสตร์กระแสรองที่เป็นเรื่องราวทั่วไปดูสิครับ หนังสือประวัติศาสตร์เหล่านี้จะไม่เล่าเรื่องของผู้นำและการเมือง แต่จะไปเจาะลึกถึงวิถีชีวิตของชาวบ้านในอดีตและเล่าถึงที่มาของสิ่งต่าง ๆ ที่น่าสนใจว่า สิ่งนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร ? เหตุใดคนสมัยก่อนจึงทำเช่นนี้ ? ซึ่งก็นับว่าสิ่งที่หนังสือประวัติศาสตร์ประเภทนี้ต้องการจะถ่ายทอด ก็เป็นอีกเรื่องราวหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเลยครับ
บางสิ่งบางอย่างที่คุณอาจจะไม่สนใจ เพราะเป็นสิ่งที่คุณสามารถพบเจอได้ทุกวัน บางครั้งสิ่งเหล่านั้นก็อาจจะมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่คุณคาดไม่ถึงซ่อนอยู่ก็ได้ เช่น ประวัติศาสตร์ของกระดาษ ประวัติศาสตร์ของสุรา เป็นต้น สำหรับคนที่ชื่นชอบและสนใจเรื่องราวแบบนี้ บอกได้เลยว่าต้องลองอ่านดูสักครั้งครับ
นอกจากประเภทของหนังสือประวัติศาสตร์แล้ว ยังมีอีกหนึ่งเรื่องที่ควรให้ความสนใจ คือ รูปแบบงานเขียนนั่นเองครับ จะมีแบบไหนบ้าง เราไปดูพร้อม ๆ กันเลยครับ
สำหรับรูปแบบงานเขียนของนักเขียนชาวไทยจะมีจุดเด่นอยู่ที่การเขียนและคำศัพท์ต่าง ๆ ที่เข้าใจง่ายและเข้าถึงนิสัยของผู้อ่านชาวไทยได้ดี เนื่องด้วยความเข้าใจในบริบทความเป็นไทยรวมถึงในส่วนของการใช้ไวยากรณ์แบบไทยด้วย จึงทำให้เราสามารถมีอารมณ์ร่วมได้ง่ายกว่า นอกจากนี้ ในด้านเนื้อหาของงานเขียนจากผู้เขียนชาวไทยยังมักจะเปรียบเทียบช่วงเวลาของเหตุการณ์สำคัญ ๆ ที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์โลกกับประวัติศาสตร์ชาติไทยหรือความเกี่ยวข้องระหว่างประเทศไทยกับเหตุการณ์นั้น ๆ ทำให้เราสามารถเข้าใจภาพรวมของสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้นครับ
หลาย ๆ คนมักรู้สึกว่า งานเขียนที่แปลมาจากต่างประเทศเข้าถึงได้ยาก เนื่องจากบริบทและไวยากรณ์ที่ส่งผลต่อการแปล หรือบางครั้งผู้แปลอาจไม่ชำนาญมากพอจนทำให้ผู้อ่านรู้สึกไม่พึงพอใจและหลีกเลี่ยงที่จะอ่านงานประเภทนี้ แต่หนังสือประวัติศาสตร์จากนักเขียนต่างชาติเหล่านี้ก็มีข้อดีอยู่มาก เพราะจะมีเนื้อหาของสิ่งต่าง ๆ ที่ค่อนข้างชัดเจน หลักฐานที่หนักแน่น หลายครั้งเป็นงานเขียนที่มาจากบทสัมภาษณ์ของคนที่ประสบเหตุการณ์จริงและยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นงานเขียนประวัติศาสตร์สงคราม, ชีวประวัติบุคคลสำคัญ, งานเขียนประวัติศาสตร์นอกกระแส หรือแนวอื่น ๆ อีกมากมาย จึงถือได้ว่า งานเขียนรูปแบบนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักอ่านครับ
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้เนื้อหา คือ รูปแบบการนำเสนอ การนำเสนอเนื้อหาที่ดีจะทำให้เราไม่รู้สึกเบื่อและสามารถจดจ่อกับการอ่านได้จนจบเล่ม ดังนั้น เวลาเลือกหนังสือประวัติศาสตร์ ก็ควรจะเลือกหนังสือที่มีรูปภาพประกอบเนื้อหาหรือมีลำดับเวลาเกี่ยวกับช่วงเวลานั้น ๆ ประกอบด้วย เพราะไม่ว่าเนื้อหาจะสนุกและน่าสนใจแค่ไหน หากมีตัวหนังสือเต็มไปหมดทั้งหน้า ก็อาจจะทำให้เราหมดความสนใจและรู้สึกเบื่อได้ง่ายกว่าครับ
หลังจากเรารู้วิธีการเลือกหนังสือประวัติศาสตร์ไปแล้ว ต่อไปก็ถึงช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอย นั่นก็คือ 10 อันดับหนังสือประวัติศาสตร์น่าสนใจ ที่สามารถหาซื้อได้ทางออนไลน์ครับ จะมีหนังสือเรื่องอะไรหรือเล่มไหนที่เหมาะกับเราบ้าง มาดูไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าครับ !
หากอยากสัมผัสถึงความรู้สึกและเรื่องราวจริง ๆ ในสงครามที่น่าหวาดกลัว ต้องลองอ่านเล่มนี้ดูครับ หนังสือเล่มนี้จะเล่าถึงเรื่องของพลทหารนายหนึ่งในสมรภูมิสตาลินกราด ประเทศรัสเซีย ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวและอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการฟันฝ่าหิมะที่หนาวเหน็บ, สมรภูมิที่ดุเดือด, ความหวังและความสิ้นหวัง, ศักดิ์ศรีและการเอาตัวรอดของมนุษย์ สิ่งที่น่าสนใจ คือ หนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นโดยพลทหารเจ้าของเรื่องที่ไปรบในแนวหน้าของสงครามมาเอง จึงเรียกได้ว่า เนื้อหาค่อนข้างแม่นยำและสมจริงจนหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วครับ
หลาย ๆ คนอาจจะรู้จักกับพระเจ้าตากในฐานะกษัตริย์นักรบผู้กอบกู้เอกราชของชาติไทยเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว พระเจ้าตากยังเป็นกษัตริย์นักการค้าผู้มีความสำคัญกับเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย ! โดยในหนังสือเล่มนี้ จะเล่าถึงเรื่องราวของพระเจ้าตากกับมุมมองใหม่ ๆ ที่เราไม่เคยรู้มาก่อนทั้งในเรื่องราวของพระเจ้าตากกับเศรษฐกิจของประเทศไทยและนานาชาติ, การปราบปรามโจรสลัด, เรื่องราวซุบซิบเมื่อพระเจ้าตากขอเป็นราชบุตรเขยของเฉียนหลงหว่างตี้ ไปจนถึงเรื่องราวของสังคมสมัยธนบุรี เรียกได้ว่าเป็นหนังสือประวัติศาสตร์ที่มีหัวข้อและเนื้อหาที่น่าสนใจอีกเล่มหนึ่งเลยครับ
สำหรับคนรักประวัติศาสตร์ บางคนก็อาจชอบเรื่องราวเกี่ยวกับสงคราม บ้างก็ชอบเรื่องอารยธรรมโบราณ แต่วันนี้เราขอนำเสนอประวัติศาสตร์ที่หลาย ๆ คนชอบมองข้ามอย่างศิลปะ บันเทิง และกีฬากันบ้างครับ หนังสือเล่มนี้จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับความบันเทิง ศิลปวัฒนธรรมและสิ่งสันทนาการที่สร้างผลกระทบต่อประวัติศาสตร์ของโลก ยกตัวอย่างเช่น นักกีฬาผู้ทำลายกำแพงผิวสี เรื่องราวของราชาเพลงร็อก แอนด์ โรลอย่างเอลวิส เพรสลีย์ และเรื่องราวอื่น ๆ อีกมากมายที่ถ้าได้ลองอ่านดูรับรองว่าต้องถูกใจแน่นอนครับ
เรื่องราวในอดีตของประเทศไทยเป็นเรื่องที่เราเรียนกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ ผ่านรั้วโรงเรียน แต่ว่าความจริงแล้วประวัติศาสตร์ไทยยังมีแง่มุมและเรื่องราวต่าง ๆ ที่เราไม่เคยรู้อีกมากครับ หนังสือเรื่องนี้จะพาเราไปรับรู้ถึงเรื่องราวที่เข้มข้น น่าตื่นเต้น และไม่ได้ถูกเล่าในหนังสือหรือตำราเรียนที่ไหน ซึ่งเนื้อหาจะพาให้เรารู้สึกสนุกและตื่นเต้นตลอดการอ่าน ด้วยสำนวนการเขียนที่เข้มข้นราวกับนวนิยายภายใต้หมึกปากกาของนักเขียนรางวัลซีไรต์ 2 สมัยควบตำแหน่งศิลปินแห่งชาติ รับรองว่าสนุกจนวางไม่ลงแน่นอนครับ
มั่นใจว่าในโลกนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักเครื่องดื่มที่เรียกว่า "สุรา" หรือที่เรียกกันง่าย ๆ ว่า "เหล้า" อย่างแน่นอน แต่คุณรู้หรือไม่ว่า เครื่องดื่มชนิดนี้มีความเป็นมาพร้อม ๆ กับอารยธรรมของมนุษย์โลกในสมัยโบราณเลยครับ และหนังสือเรื่องนี้ก็จะพาเราย้อนอดีตไปทำความรู้จักกับต้นกำเนิดของเหล้า รวมถึงความเกี่ยวข้องระหว่างเหล้ากับอารยธรรมต่าง ๆ ตั้งแต่อียิปต์โบราณ, กรีก, โรมัน ไปจนถึงจีน รวมไปถึงพิธีกรรมและธรรมเนียมแปลก ๆ เกี่ยวกับเหล้าจากทั่วทุกมุมโลก ถ้าใครคนไหนเป็นนักดื่มและอยากหาเรื่องเล่าสนุก ๆ ไปเล่าในวงสุรา ลองหยิบหนังสือเรื่องนี้ไปลองอ่านดูสิครับ
ประเทศจีนถือเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศบนโลกนี้ ที่ยังปกครองด้วยระบบสังคมนิยม แต่อะไรคือสาเหตุให้ประเทศที่มีวัฒนธรรมยาวนานหลายพันปีเลือกเส้นทางนี้ และยังคงความเป็นตัวเองได้จนถึงปัจจุบัน ? ถ้าใครเคยสงสัยแบบที่กล่าวไว้ข้างต้น หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคุณแล้วครับ เพราะนอกจากจะเล่าเรื่องราวในประเทศจีนหลังการล่มสลายของราชวงศ์จีนแล้ว หนังสือเล่มนี้ยังเล่าถึงเรื่องการต่อต้านลัทธิล่าอาณานิคม, การเริ่มเข้าสู่ยุคเผด็จการทางทหาร, ความโหดร้ายและยาวนานของสงครามกลางเมือง และการเข้ามาของพรรคคอมมิวนิสต์ ใครที่สนใจประวัติศาสตร์จีนยุคใหม่เราขอแนะนำให้ลองอ่านดูครับ
"พม่า" เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกับฝั่งเรา แต่เรากลับไม่ค่อยรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ของพวกเขามากนัก ซึ่งหนังสือเล่มนี้จะพาเราย้อนไปในช่วงที่บ้านเมืองและราชวงศ์พม่ากำลังระส่ำระส่ายจากการเข้ามาและบุกรุกของชาติมหาอำนาจตะวันตกอย่างประเทศอังกฤษ นอกจากข้อเท็จจริงและเนื้อหาทางประวัติศาสตร์ที่สนุกตื่นเต้นแล้ว หนังสือเล่มนี้ยังได้นักเขียนระดับชั้นปรมาจารย์อย่างม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช มาเขียนอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นหนังสือประวัติศาสตร์ระดับตำนานที่ควรอ่านสักครั้งครับ
ถ้าใครเคยดูภาพยนตร์เรื่อง The Lat Emperor คุณคงจะคุ้นกับชื่อนักเขียน "อั้ยชิง เจี่ยวหรอ ฟู่อี้" คนนี้ดีครับ เพราะนักเขียนคนนี้ คือ อดีตจักรพรรดิของประเทศจีน หรือที่คนไทยรู้จักในชื่อ "จักรพรรดิปูยี" นี่เองครับ ในหนังสือเล่มนี้จะเล่าถึงประวัติของฮ่องเต้คนสุดท้ายที่ต้องกลายมาเป็นสามัญชนและเรื่องราวที่ใครไม่เคยรู้ ในช่วงปลายราชวงศ์ชิง, มรสุมทางการเมือง, การเปลี่ยนแปลงของชีวิตที่ขึ้นสุดลงสุดราวกับนวนิยาย และจากการที่คนที่เขียนเป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์จริง รับรองว่าผู้อ่านต้องได้รับประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมราวกับไปอยู่ในช่วงเวลานั้น ๆ ด้วยตัวเองเลยแน่นอนครับ
ทุกคนเคยสงสัยหรือเปล่าครับว่า มนุษย์เราพัฒนาจากสัตว์ธรรมดาตัวหนึ่งกลายมาเป็นผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมบนโลกใบนี้ได้อย่างไร ? หนังสือเล่มนี้จะเล่าถึงประวัติศาสตร์โลกตั้งแต่ 70,000 ปีก่อนหรือสมัยยุคหินไปเรื่อย ๆ จนมีการค้นพบไฟ, เริ่มต้นสื่อสาร, นับถือศาสนา, สร้างอารยธรรม หรือแม้กระทั่งการก่อสงคราม เพื่อชี้ให้เห็นสาเหตุที่เผ่าพันธ์ุมนุษย์มาถึงจุดนี้ แม้จะเป็นหนังสือเล่มหนา แต่ด้วยเนื้อหาและสำนวนการเขียนที่สนุกจนแทบวางไม่ลง จนหนังสือเล่มนี้ได้รับรางวัลและตีพิมพ์เป็นภาษาต่าง ๆ ทั่วโลก ถือเป็นตัวช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ว่าคุณจะไม่เบื่อง่าย ๆ ครับ
หากคิดว่าหนังสือประวัติศาสตร์อ่านแล้วต้องง่วงและน่าเบื่อ หนังสือเล่มนี้จะเป็นตัวแทนบอกให้ทราบว่า หนังสือประวัติศาสตร์ไม่จำเป็นต้องน่าเบื่อเสมอไปครับ เรื่องราวในหนังสือเล่มนี้ จะเริ่มตั้งแต่จุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์มนุษย์, อารยธรรมโบราณ, ยุคกลาง จนถึงปัจจุบัน แม้ว่ารายละเอียดจะยิบย่อย แต่ทั้งหมดนี้จะเล่าด้วยลีลาการเขียนที่จัดจ้านราวกับอ่านนวนิยาย และยังมีแฝงเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เป็นเรื่องแปลกแต่จริงจำนวนมาก เช่น ลูกปัดประดับอัณฑะ ปาร์ตี้สุดฉาวของชาวโรมัน ไปจนถึงการเลี้ยงทารกด้วยฝิ่น ใครที่กำลังอยากเริ่มอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ดูสักเล่ม ขอแนะนำให้เริ่มอ่านที่เล่มนี้ดูครับ สนุกสนานแน่นอน
สิ่งสำคัญในการศึกษาประวัติศาสตร์ไม่ใช่แค่การทราบเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตแต่เพียงอย่างเดียว แต่เป้าหมายจริง ๆ คือ การนำเรื่องราวในอดีตมาเป็นบทเรียนเพื่อการสร้างอนาคตที่ดีกว่าเดิมครับ นอกจากเป็นการเพิ่มความรู้รอบตัวแล้ว การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ยังสามารถได้รับข้อคิดและแนวทางต่าง ๆ ของผู้คนในอดีตมาศึกษาและเป็นประโยชน์กับตัวเองได้ อีกทั้งหนังสือประวัติศาสตร์ในปัจจุบันก็ไม่ใช่หนังสือที่เต็มไปด้วยตัวอักษรและน่าเบื่ออีกต่อไป เราจึงอยากแนะนำให้บรรดาคนรักการอ่านทุกคนมองหาหนังสือประวัติศาสตร์ดี ๆ ไปประดับตู้หนังสือที่บ้านของคุณสักเล่มดูครับ รับรองว่าถ้าได้อ่านสักเล่มนึงแล้ว จะต้องมีเล่มที่สอง, สามและสี่ตามมาอย่างแน่นอนครับ