แนะนำ 6 คาร์ซีท และอุปกรณ์ อัพเดทล่าสุดปี 2567

หากคุณกำลังมองหา คูปองส่วนลดมากมาย มีให้เลือกหลากหลาย ส่งฟรี ส่งไว เก็บเงินปลายทาง ช้อปออนไลน์ 24 ชั่วโมง ช้อปได้ที่ร้านค้าแนะนำของเรา
ราคาพิเศษมาแนะนำลูกค้าที่น่ารัก ราคาคุ้มค่า เราแนะนำเลยเจ้านี้ คาร์ซีท และอุปกรณ์  สินค้าออนไลน์  จากร้านค้า Online ที่ถู๊กถูกและเยี่ยมที่สุดในไทย สั่ง คาร์ซีท และอุปกรณ์  ไป ราคาถุกจริงๆ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ราคาจะลดลงอีกลองเข้าไปดูที่ร้านได้ ซื้อเลย สินค้าไม่เสียหาย มีคุณภาพ จัดส่งรวดเร็ว ของพรีเมี่ยม ตอนนี้ลองใช้มาซักพักใช้ได้ดี ไม่พบปัยหาเลยกับทางร้านค้า

     
หากคุณกำลังมองหาคาร์ซีท และอุปกรณ์พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้หลากหลาย เราขอแนะนำให้รู้จักกับนวัตกรรมคาร์ซีท และอุปกรณ์ชั้นเลิศจากแบรนด์ผู้ผลิตที่คร่ำวอดอยู่ในวงการ โดยแต่ละชนิดมีทั้งแบบ คาร์ซีท และอุปกรณ์ ซึ่งวันนี้ทางเราจึงจัดอันดับ แนะนำ คาร์ซีท และอุปกรณ์ ที่ตอบโจทย์กับตัวคุณมาให้เลือกกันแล้วดังนี้

แนะนำวิธีเลือกซื้อ คาร์ซีท ให้เหมาะกับช่วงอายุ และการใช้งาน
การพาลูกเล็กนั่งรถยนต์ออกนอกบ้านทุกครั้งจำเป็นต้องมี “ตัวช่วย” ที่จะทำให้การเดินทางราบรื่นและปลอดภัย ซึ่งอุปกรณ์ช่วยนี้ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นและควรต้องมีคือ “ คาร์ซีท ” (Car Seat) อุปกรณ์ที่ช่วยให้เด็กน้อยปลอดภัยจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน และได้รับการยืนยันจากคุณแม่หลายรายแล้วว่าช่วยให้ลูกปลอดภัยกว่าการอุ้มไว้บนตักระหว่างเดินทาง การติด คาร์ซีท ไว้ในรถยนต์ถือว่าไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริม เพียงแค่มีเข็มขัดนิรภัยในการล็อก คาร์ซีท ให้ติดอยู่กับที่ก็เพียงพอ เพียงแต่ต้องเลือกให้เหมาะกับช่วงวัย เพื่อให้ลูกน้อยรู้สึกสบายกับการเดินทางมากที่สุดด้วย

การฝึกให้ลูกน้อยนั่ง คาร์ซีท ควรเริ่มอย่างค่อยเป็นค่อยไป และสามารถทำได้ตั้งแต่ลูกยังเป็นเด็กแรกเกิด ซึ่งในช่วงแรกคุณพ่อคุณแม่อาจต้องพยายามฝืนและอดทนกับเสียงร้อง และอาการต่อต้าน แต่เมื่อลูกน้อย “คุ้นชิน” แล้ว ทุกอย่างก็จะลงตัว

คาร์ซีทแต่ละช่วงอายุ ของลูกจึงมีความแตกต่าง และการเลือกให้เหมาะสมนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยทั่วไปจะมีอยู่ 4 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่
  • คาร์ซีทแบบกระเช้า เหมาะสำหรับเด็กเล็กโดยเฉพาะ โดยจะใช้ได้กับเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 18 เดือน มีเบาะรองที่หนา พร้อมเข็มขัดนิรภัยในตัว 5 จุด ออกแบบรองรับการวางบนเบาะก่อนจะคาดเข็มขัดนิรภัยของรถยนต์อีกหนึ่งชั้น น้ำหนักจะไม่มาก และมีหูหิ้วเหมือนตระกร้า จึงสามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้แม้ว่าลูกน้อยจะหลับอยู่ การติดตั้งคาร์ซีทสำหรับเด็กเล็กนี้มีข้อแนะนำให้หันด้านหน้าเด็กเข้าหาเบาะหลังรถเท่านั้น เพราะจะทำให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด
  • คาร์ซีทพกพา เหมาะสำหรับเด็กตั้งแต่อายุ 9 เดือนถึง 6 ปี สามารถรับน้ำหนักได้ถึง 25 กิโลกรัม มีจุดเด่นที่รูปร่างเหมือนกระเป๋าเป้ สามารถพับเก็บได้ พกพาสะดวก คาร์ซีทแบบนี้มีขนาดของเบาะที่บางกว่า จึงทำให้ลดแรงกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้น้อยกว่า แต่จะเน้นความปลอดภัยจากการใช้เข็มขัดนิรภัยที่ช่วยยึดเหนี่ยวตัวของลูกไว้กับเบาะรถยนต์
  • คาร์ซีทแบบหมุนได้ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถใช้ได้กับเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึงขนาดน้ำหนัก 36 กิโลกรัม จุดเด่นคือจะช่วยลดการต่อต้านของเด็ก ๆ ที่เริ่มโต ซึ่งไม่ชอบการนั่งคาร์ซีทโดยหันหน้าเข้าหาเบาะขณะที่ไม่ได้นอนหลับ คุณพ่อคุณแม่จึงสามารถหมุนหันมาด้านหน้าได้อย่างสะดวกและทำให้การนั่งคาร์ซีทราบรื่นขึ้น
  • Booster seat เมื่อลูกโตขึ้นอีกหน่อย ราว 3 - 12 ปี ซึ่งถือว่าเริ่มโตเกินกว่าจะนั่งคาร์ซีทแล้วแต่ก็ยังเด็กเกินไปที่จะใช้เข็มขัดนิรภัย คุณพ่อคุณแม่อาจเลือกใช้ Booster Seat หรือเก้าอี้นิรภัยสำหรับเด็กได้ โดยใช้เข็มขัดนิรภัยของรถยนต์พาดไปบนตัวเด็กเพื่อเริ่มฝึกการใช้เข็มขัดนิรภัยของรถยนต์แทน
คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกคาร์ซีทที่มีหลายแบบหลายฟังก์ชั่น ให้เหมาะกับช่วงวัยของลูก และงบประมาณของครอบครัว เพื่อให้การเดินทางท่องโลกของลูกน้อยราบรื่นและปลอดภัย
การตัดสินใจพาเด็กเล็กนั่งรถยนต์ไปไหนต่อไหน พ่อแม่จะต้องวางแผนอย่างดี เพื่อให้การเดินทางแต่ละครั้งปลอดภัยสูงสุดโดยเฉพาะกับลูกที่ยังเป็นเด็กเล็กหรือเด็กแรกเกิด เบาะเด็กหรือคาร์ซีทคืออุปกรณ์ความปลอดภัยสำหรับเด็กที่สำคัญที่สุดที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม และควรติดตั้งในรถยนต์แทนการอุ้มเด็กไว้บนตัก ไม่ควรปล่อยให้เด็กได้นั่งหรือยืนโดยไม่มีสิ่งยึดเหนี่ยว เพราะจะทำให้ได้รับอันตรายหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น นอกจากเบาะเด็กหรือคาร์ซีทที่มีหลายประเภทให้เลือกตามความเหมาะสมกับลูกน้อยแล้ว ยังมี อุปกรณ์เสริมคาร์ซีท อีกมากมายที่คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้เพิ่มเพื่อความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทางได้ เริ่มจากดังนี้
  • เบาะรองคาร์ซีท เป็นเบาะรองนั่งช่วยรองรับตัวเด็กขณะที่นั่งอยู่ในคาร์ซีท ตัวเบาะจะห่อหุ้มช่วงตัวและศีรษะของเด็กให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้นในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือเกิดการกระแทก ทั้งยังมีส่วนช่วยในเรื่องสุขอนามัยให้กับลูกน้อย จุดนี้ต้องยอมรับว่า “คาร์ซีท” ถือเป็นแหล่งสะสมเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ที่พ่อแม่อาจมองข้ามไป และการทำความสะอาดก็ไม่ใช่เรื่องง่าย การใช้เบาะรองคาร์ซีทจึงเท่ากับมีแผ่นที่ช่วยกรองการสัมผัสกับแหล่งเชื้อโรค สามารถถอดไปทำความสะอาดได้ง่าย ที่สำคัญวัสดุที่ใช้ช่วยให้เกิดความนุ่มสบายในยามนั่งคาร์ซีท จึงทำให้ลูกน้อยลดการต่อต้านการนั่งคาร์ซีทได้มากขึ้น
  • ที่ล็อกสายคาร์ซีท เป็นอุปกรณ์เสริมที่ช่วยล็อกสายให้อยู่ที่บริเวณช่วงอกของเด็ก ป้องกันไม่ให้เด็กดึงแขนออกจากคาร์ซีท ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้ การติดตั้งอุปกรณ์ตัวนี้จะต้องถอดสายคาร์ซีทออกก่อน จากนั้นจึงสวมที่ล็อกสายเข้าไป คุณพ่อคุณแม่จะต้องปรับสายเข็มขัดให้พอดีกับตัวลูก ไม่ให้คับหรือหลวมมากจนเกินไป ถือเป็นอีกอุปกรณ์สำคัญอีกอย่างที่ช่วยเสริมความปลอดภัยให้กับลูกน้อยได้เช่นกัน
  • กระจกมองคาร์ซีท ถือเป็นอีกตัวช่วยสำคัญ เพราะทำให้คุณพ่อหรือคุณแม่ที่ขับรถอยู่ไม่ต้องเอี้ยวตัวหันไปมองลูกน้อยในคาร์ซีทที่เบาะหลัง เนื่องจากไม่เห็นอากัปกิริยาท่าทางต่าง ๆ ของลูกน้อยในขณะนั่งได้ กระจกมองคาร์ซีทนี้ได้ถูกออกแบบมาให้มีความโค้งและกว้าง สามารถช่วยให้คุณพ่อคุณแม่เหลือบมองดูลูกได้หลายมุมในขณะขับรถ
เมื่อได้เตรียมทั้ง คาร์ซีท และตัวช่วยทั้งหลายเรียบร้อยแล้ว น่าจะทำให้การใช้คาร์ซีทของลูกน้อย สะดวก สบาย และปลอดภัย คราวนี้คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถพาลูกออกเดินทางหรือท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องกังวล